ไม่อยากปวดหลังจากการทำงาน เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง แก้ปวดหลัง

ในปัจจุบันมีผู้ที่ใช้เวลาในการนั่งทำงานอยู่เป็นเวลานานๆ  ซึ่งผลที่ตามมาก็คืออาการปวดเมื่อยตามร่างกาย บางคนมีอาการปวดหลัง แต่ส่วนใหญ่มักคิดว่า อาการปวดเมื่อยที่หลังนั้น เกิดขึ้นปกติกับคนทำงานทั่วไป หากได้พักผ่อนก็จะหายไปเอง แต่ความเป็นจริงแล้ว นีอาจเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่า กระดูกสันหลัง นั้นกำลังเริ่มมีการเสื่อมลงแล้ว

หมอนรองกระดูกเคลื่อน กระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังคดงอผิดปกติ กระดูกสันหลังรูปร่างผิดปกติ โรคเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ การปวดหลังนั้นเกิดขึ้นได้จากแรงกด ที่เกิดขึ้นจากกระดูกสันหลัง ปกติหลังของคนเรานั้น จะไม่ค่อยปวด แต่พอเราเริ่มอายุมากขึ้น ความเสื่อมของหมอนรองกระดูกก็จะมีมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีอายุใกล้ๆ 30หลายคนก็จะเริ่มมีอาการปวดหลัง ซึ่งสังเกตได้จากการนอนหลับ จะเริ่มปวดหลังตอนนอน และต่อมาจะเริ่มปวดหลังมากขึ้นและหลังของเราก็จะค่อมมากขึ้น สาเหตุเพราะหมอนรองกระดูกเริ่มยุบตัวและกระดูกเริ่มยุบตัวทำให้หลังเราค่อม การทำงานของกระดูกสันหลังก็จะลดลง

ท่านั่งของเรามีส่วนในการช่วยในการหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาอาการจาก การปวดหลังได้ การนั่งต้องอย่าให้ก้มคอมาก เพราะแรงของกล้ามเนื้อจะดึงกระดูกคอขึ้นมามาก เพื่อที่จะดึงศีรษะเอาไว้ ปัญหาของกระดูกสันหลังก็คือ ตัวของกระดูกไม่ได้มีเพียงตัวกระดูกสันหลังเพียงอย่างเดียว แต่จะมีหมอนรองกระดูกที่ทำหน้าที่เหมือนกับโช๊คอัพ ซึ่งจะคอยรับแรงกระแทก ตรงส่วนของหมอนรองกระดูกนั้นสามารถปลิ้นออกมาได้ง่าย และทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทส่งผลให้มีอาการปวดร้าวตามมาได้ เช่น ปวดหลังร้าวลงขา แขนหรือขาชา โดยปกติแล้วในชีวิตคนเราจะปวดหลังจนต้องไปพบแพทย์เฉลี่ยแล้วคนละ 1 ครั้ง

เพื่อเป็นการถนอมกระดูกสัน เราควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ต่อไปนี้

1.ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะจะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคด

2.ไม่ควรนั่งกอดอก ทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่นั้น ถูกยืดออก หลังช่วงบนจะค่อมและงุ้มไปด้านหน้า จึงทำให้กระดูก ตรงส่วนคอนั้นยื่นไปด้านหน้า ซึ่งมีผล  ต่อเส้นประสาทที่จะไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรงลงหรือชาได้

3.ไม่ควรนั่งหลังงอ หลังค่อม เช่น การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง

ค้างเกิดการคั่งของกรดแลกติค มีอาการเมื่อยล้า ปวด และอาจมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมาได้

4.ไม่ควรนั่งเบาะเก้าอี้เพียงครึ่งเดียวหรือ ไม่เต็มก้น ทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ

5.ไม่ควรยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้องนั้นเราควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆ กัน โดยการยืนให้ขา กว้างเท่าสะโพก จะทำให้เกิดความสมดุลต่อโครงสร้างของร่างกาย

6.ไม่ควรยืนแอ่นพุง หรือหลังค่อม เราควรยืนให้หลังตรง และแขม่วท้องเล็กน้อย เพื่อเป็นการรักษาแนวของกระดูกช่วงล่าง ไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง

7.ผู้หญิงไม่ควรใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง เพราะ จะทำให้แนวกระดูกตรงสันหลังช่วงล่างเกิดการแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด หลังได้

8.ไม่ควรสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็น ถือกระเป๋าโดยการใช้ร่างกายทั้ง

สองข้างให้เท่าๆ กัน เพราะการสะพายกระเป๋าโดยรับน้ำหนักข้างเดียวจะ ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักอยู่เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้

9.ไม่ควรนอนขดตัวหรือนอนตัวเอียง ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนว ระนาบ และหมอนหนุนศีรษะไม่ควรแข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองที่ใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นที่ต้องนอนตะแคงให้หาหมอนข้างก่ายโดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้างเพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง

จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่เป็นประจำซึ่งนั่นไม่ใช่ผลดีในอนาคต ควรปรับเปลี่ยนเสียใหม่ นอกจากนี้เราควรเสริมสร้างกระดูกตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการเล่นกีฬา ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อทำให้โครงกระดูกแข็ง กระดูกข้างในจะแน่น การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ การทานวิตามินดีเสริมที่เป็นตัวดึงแคลเซียมเข้าไปในกระดูก ซึ่งวิตามินดีสามารถสังเคราะห์ได้จากการโดนแดด โดยเฉพาะในตอนเช้า เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้เราหลีกเลี่ยงจากอาการปวดหลังที่เกิดจากการทำงานได้

เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง

www.เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งราคาถูก.com